Tokenization คืออะไร ?
“Tokenization” คือ
กระบวนการสร้างตัวแทนของทรัพย์สินต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล (digital
representation) โดยสร้างโทเคนเพื่อเป็นตัวแทนของสิทธิหรือทรัพย์สินต่าง
ๆ เช่น โฉนดที่ดิน อัญมณี งานศิลปะ ทรัพย์สินทางปัญญา สินทรัพย์ทางการเงิน เป็นต้น
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดสภาพคล่องใน
การซื้อขายแลกเปลี่ยนทรัพย์สินหรือนำทรัพย์สินดังกล่าวมาแบ่งเป็นหน่วยย่อยในรูปของโทเคน
ซึ่งปัจจุบันมีหลาย platform ที่ให้บริการ tokenize ทรัพย์สิน และเปิดพื้นที่ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน ตัวอย่างเช่น “SuperRare”
ซึ่งเป็น platform สำหรับการซื้อขาย digital
artwork โดยชิ้นงานที่ศิลปินผลิตขึ้นจะถูก tokenize บนระบบ Ethereum Blockchain และผู้ครอบครองโทเคนก็จะได้รับใบรองรับความเป็นเจ้าของในชิ้นงานด้วย
Tokenization และกรรมสิทธิ์
ด้วยเหตุที่โทเคนเป็นเพียงหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นตัวแทนของสิ่งต่าง
ๆ ในโลกจริง จึงเกิดคำถามว่า ผู้ถือโทเคนถือเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูก tokenize
(ทรัพย์สินอ้างอิง)
หรือมีสิทธิที่จะนำโทเคนไปใช้แทนทรัพย์สินอ้างอิงได้หรือไม่
เมื่อพิจารณาความเป็นเจ้าของทรัพย์สินตามกฎหมายไทย
ในกรณีของสังหาริมทรัพย์ก็จะดูที่การครอบครองทรัพย์สินนั้นทางกายภาพ
(โดยสุจริตและชำระค่าตอบแทน)
หรือหากเป็นอสังหาริมทรัพย์ก็ต้องมีการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ ในแง่ของการระดมทุน
ปัจจุบันมีผู้สนใจจะออกโทเคนที่มีทรัพย์สินในโลกจริงเป็นทรัพย์สินอ้างอิง (asset-backed
token) เพื่อเป็นเครื่องมือในการระดมทุน
โดยผู้ถือโทเคนจะได้รับผลตอบแทนหรือประโยชน์ที่เกิดจากทรัพย์สินนั้น
อย่างไรก็ดี เนื่องจากกฎหมายไทยยังไม่รองรับสิทธิของผู้ถือโทเคนในทรัพย์สินอ้างอิง
กรรมสิทธิ์จึงยังคงตกอยู่กับผู้ออกโทเคนหรือเจ้าของทรัพย์สินนั้นตามกฎหมาย
(ผู้ครอบครองหรือผู้ที่มีชื่อในทะเบียน)
ผู้ถือโทเคนจึงมีเพียงสิทธิเรียกร้องต่อผู้ออกโทเคนในผลตอบแทนหรือประโยชน์ที่เกิดจากทรัพย์สินตามที่ผู้ออกโทเคนกำหนดไว้เท่านั้น
เพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้แก่ผู้ถือโทเคนในกรณีที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินอ้างอิง
(real
estate-backed token) ก.ล.ต.
จึงกำหนดให้ผู้ออกโทเคนดังกล่าวต้องมอบหมายให้บุคคลที่ 3
ที่เรียกว่า “ทรัสตี” ถือครองอสังหาริมทรัพย์นั้นแทน
และทำหน้าที่ดูแลรักษาสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่ผู้ถือโทเคน เพื่อให้มั่นใจว่า
ผู้ออกโทเคนไม่สามารถนำอสังหาริมทรัพย์นั้นไปใช้เพื่อการอื่นได้
และผู้ถือโทเคนจะได้รับผลประโยชน์จากทรัพย์สินตามสิทธิที่พึงได้รับ ทั้งนี้
หลักเกณฑ์ real estate-backed ICO ดังกล่าวมีผลใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่
1 มีนาคม 2564 (ข้อมูลได้จากเว็บไซต์
ก.ล.ต.)
ด้วยพัฒนาการทางเทคโนโลยี
โดยเฉพาะบล็อกเชน ต่างประเทศจึงเริ่มมีการออกกฎหมายรองรับกระบวนการ tokenization
เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่
ตัวอย่างเช่น
ลิกเตนสไตน์
เป็นประเทศแรก ๆ ที่มีการออกกฎหมายเพื่อรองรับกระบวนการ tokenization
ซึ่งตามกฎหมายฉบับนี้ “โทเคน” เปรียบได้กับ “container” ที่บรรจุสิทธิต่าง ๆ ของผู้ถือไว้ เมื่อมีการโอนโทเคน สิทธิที่ถูก tokenize
ไว้ก็จะถูกโอนไปพร้อมกันด้วย ทั้งนี้ ผู้ออกโทเคน
จะต้องมีมาตรการที่ทำให้มั่นใจได้ว่า (1) โทเคนแสดงถึงสิทธิของผู้ถืออย่างถูกต้อง
(2) การโอนโทเคนมีผลเป็นการโอนสิทธิของผู้ถือโทเคนด้วย และ (3)
โทเคนหนึ่งจะไม่ถูกโอนไปยังผู้รับสองคนในเวลาเดียวกัน (double
spending)
สวิตเซอร์แลนด์
มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับการ tokenize ทรัพย์สินที่เป็นสังหาริมทรัพย์
(ยังไม่รองรับกรณีอสังหาริมทรัพย์)
โดยกำหนดให้ผู้ถือโทเคนสามารถโอนโทเคนที่มีทรัพย์สินอ้างอิงผ่านระบบทะเบียน (register)
ซึ่งมีลักษณะตามที่กำหนดได้
โดยการโอนโทเคนดังกล่าวกฎหมายจะรองรับว่าได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอ้างอิงนั้นไปด้วย
เยอรมนี
มีการยกร่างกฎหมายเพื่อรองรับกระบวนการ tokenization เช่นกัน แต่ยังจำกัดเฉพาะกับหลักทรัพย์ โดยร่างกฎหมายนี้รองรับการออกหลักทรัพย์ดิจิทัลบนบล็อกเชนโดยไม่ต้องมีการออกใบหลักทรัพย์
และต้องทำผ่านระบบทะเบียนหลักทรัพย์ (register) ของผู้ที่ได้รับใบอนุญาต
นอกจากนี้ ยังกำหนดรองรับการโอนหลักทรัพย์ดิจิทัลผ่านระบบทะเบียนดังกล่าว
โดยกรรมสิทธิ์ในหลักทรัพย์ดิจิทัลจะถูกโอนไปยังผู้รับโอน
เมื่อมีการลบชื่อผู้โอนและเพิ่มชื่อผู้รับโอนในระบบทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
สุดท้ายนี้
สำหรับประเทศไทยก็อาจต้องติดตามพัฒนาการของภาคธุรกิจ
รวมถึงพัฒนาการของกฎหมายในประเทศต่าง ๆ
เพื่อนำมาปรับใช้ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนำเทคโนโลยีมาใช้กับการระดมทุน
และการประกอบธุรกิจ โดยในส่วนของ ก.ล.ต.
ได้สนับสนุนให้มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมในตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง
เช่น ในปี 2562
ที่ได้มีการปรับปรุงกฎหมายหลักทรัพย์เพื่อรองรับการออกหลักทรัพย์แบบไร้ใบหลักทรัพย์
(scripless) อย่างเต็มรูปแบบผ่านศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตด้วย
ที่มา : นางสาวนภนวลพรรณ
ภวสันต์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
0 ความคิดเห็น