1. ตั้งรหัสผ่านที่เดายาก ไม่ใช้ซ้ำ และหมั่นเปลี่ยนอยู่เสมอ
วิธีง่าย ๆ
ที่เราสามารถทำได้คือ การตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายากและหลากหลาย มีความยาวอย่างน้อย 12-14 ตัวอักษร ประกอบไปด้วย ตัวอักษรใหญ่
ตัวอักษรเล็ก ตัวเลข และไม่ควรใช้ซ้ำกับ Online Account อื่น ๆ
รวมถึงคอยตรวจสอบคำขอรีเซ็ตรหัสผ่านในบัญชีด้วย และที่สำคัญควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำทุก
3- 6 เดือน
เพื่อป้องกันกรณีที่มีการรั่วไหลของข้อมูลโดยที่เราไม่รู้ตัว
2. หมั่น Update ระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์
หมั่นตรวจสอบการ
Update ระบบปฏิบัติการและการตั้งค่าเบราว์เซอร์อุปกรณ์ต่างให้ทันสมัยอยู่เสมอ
เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป ฯลฯ เพราะ
แพทซ์ทุกเวอร์ชันย่อมมีช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถเข้ามายังระบบได้
แต่เมื่อเราหมั่น Update
แพทซ์
ก็จะช่วยปิดช่องโหว่นั้น ๆ และ เพิ่ฟีเจอร์ใหม่ๆ
ที่ช่วยให้มีความปลอดภัยระบบมากขึ้นหรือหากระบบปฏิบัติการผิดพลาดจนไม่สามารถใช้งานได้
เราจะได้แก้ไขอย่างทันท่วงที
3. หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะ
พยายามหลีกเลี่ยงการใช้
Wi-Fi สาธารณะ
ทางที่ดีควรใช้อินเทอร์เน็ตเครือข่ายมือถือของตัวเองเพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่า
เครือข่าย Wi-Fi
สาธารณะปลอดภัยจริงหรือไม่
เป็น Wi-Fi
ปลอมที่แฮกเกอร์สร้างเพื่อดักจับข้อมูลเหยื่อหรือเปล่า
หากไม่มีทางเลือกควรใช้ VPN
(Virtual Private Networks) ด้วย
เพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมออนไลน์ทั้งหมดจะปลอดภัยตั้งแต่
ธนาคารออนไลน์ไปจนถึงข้อความส่วนตัว
4. อย่าแชร์ทุกอย่างที่คิด
ก่อนแชร์ให้คิดก่อนเสมอ
ในโลก Social media มีอันตรายแอบแฝงอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเราใช้งานโดยการแชร์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเราลงบนโลกออนไลน์
เช่น แชร์ข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดแบบสาธารณะ แชร์ Location ที่อยู่อาศัยของตัวเอง ฯลฯ
อาจเป็นการแบ่งปันข้อมูลให้กับแฮกเกอร์ หรือ คนแปลกหน้าก็ได้
ทางทีดีควรคิดก่อนแชร์เสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
5. จดบันทึกประวัติการใช้งานทางการเงิน
จดบันทึกการใช้งานเครดิตอยู่เสมอว่าเราได้ใช้ทำอะไร
ที่ไหน เวลาเท่าไหร่ และจดบันทึกการเปลี่ยนแปลงแม้จะเล็ก ๆ น้อย ๆ
เพื่อป้องกันยอดเงินแปลกๆ
ที่หักเงินในบัตรเครดิตเราแบบที่ไม่รู้ตัวและที่สำคัญไม่ควรผูกเลขบัตรเครดิต เลขบัญชีธนาคารลงในเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์
หรือ เว็บไซต์ Social
ต่าง ๆ
เพราะหากโดนแฮกบัญชี สิ่งพวกนี้คือเป้าหมายแรกของแฮกเกอร์ในการขโมยข้อมูล
6. ตรวจสอบประวัติการใช้งานอินเทอร์เน็ตเสมอ
ตรวจสอบการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อป้องกันการติดตามต่างๆและป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลบนโลก
Social (ข้อมูลส่วนตัวที่คุณโชว์ไว้บน Profile Digital ต่าง ๆ)
ของเราเพื่อรักษาตัวเองให้ปลอดภัยจากการติดตามออนไลน์ที่ถูกคุกคามโดยโฆษณาออนไลน์ต่าง
ๆ ที่ไม่เหมาะสม
7. ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยในทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อออนไลน์
ถ้าคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ชิ้นนั้น
สามารถออกสู่โลกอินเทอร์เน็ตได้ ต้องป้องกันมันด้วย เช่น ถ้าเป็น PC หรือ มือถือ ก็จะต้องมี Antivirus เพื่อป้องกันการโดนไวรัส
หรือว่าถ้าในอนาคตตู้เย็นส่งข้อมูลออกสู่โลกอินเทอร์เน็ตได้
ก็ควรจะต้องป้องกันมันด้วย เพราะทุกการเชื่อมต่อมีภัยแฝงเสมอ การเลือกระบบรักษาความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ผลกระทบจากการถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวนอกจากจะทำให้เกิดความสูญเสียด้านทรัพย์สินแล้ว
ยังทำให้เสียสุขภาพจิต เช่น ความวิตกกังวล ความเครียด ฯลฯ เพราะข้อมูล Digital ของเราคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง
ยิ่งเปิดเผยมากเท่าไหร่ ยิ่งไม่ปลอดภัยมากขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งอาจทำให้ถูกคุกคามความเป็นส่วนตัวจากคนแปลกหน้า
โฆษณาออนไลน์ต่างๆที่ไม่เหมาะสม หรือแฮกเกอร์ด้วยนั่นเอง ดังนั้น หากเราทำตาม 7 ข้อที่กล่าวไว้ข้างต้น
จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหาย
ที่สำคัญจะสามารถรับมือการถูกโจมตีภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้เกือบทุกรูปแบบ
ที่มา www.thaicert.or.th
https://www.kodefix.com/online-security/
0 ความคิดเห็น