รหัสผ่านเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของบัญชีผู้ใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันหลายๆ คนก็ต้องมีรหัสผ่านสำหรับบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล, Facebook, Line หรือแอพพลิเคชันที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน รวมไปถึงบริการอื่นๆ อีกมากมาย
แล้วรหัสผ่านควรจะตั้งอย่างไรให้ปลอดภัย
และจดจำได้ง่าย ซึ่งหากจะตั้งแบบง่ายๆ อย่างใช้วันเดือนปีเกิด เบอร์มือถือ
หรือเลขที่บ้าน ก็อาจจะถูกแฮกไปง่ายๆ แต่ถ้าตั้งยากหรือซับซ้อนเกินไป ก็กลัวจะจำไม่ได้
แล้วยิ่งเรามีการใช้งานบริการต่างๆ มากมาย
ก็ต้องตั้งรหัสผ่านแต่ละบริการไม่ให้ซ้ำกัน ยิ่งยากเข้าไปใหญ่
ดังนั้น
เราจึงแนะนำวิธีการและเทคนิคตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก
แฮกเกอร์ไม่สามารถถอดรหัสผ่านของเราไม่ได้ง่ายๆ ดังนี้
1. มีความยาวมากกว่า 8 ตัวอักษรขึ้นไป
รหัสผ่านยิ่งมีความยาวมากเท่าไหร่ ยิ่งดี
ควรมีความยาว 8-12 ตัวอักษร แต่จะเอาแบบแฮกยากๆ
เลยนะ ต้อง 14 ตัว แต่! ถ้าตั้งรหัสผ่านแบบ “55555555555555”
แบบนี้ก็ไม่รอดครับ ห้ามเป็นอันขาด
2. ใช้ทุกตัวอักษรบนแป้นพิมพ์
การสร้างรหัสผ่านควรใช้ตัวอักษรบนคีย์บอร์ดแบบกระจายๆ
ประกอบด้วยตัวอักษรตัวใหญ่ ตัวเล็ก ตัวเลข และตัวอักษรพิเศษ ผสมๆ กันอย่างเช่น !Q?1>eRT@1ufA$85 และอย่าตั้งรหัสผ่านที่มีรูปแบบหรือ Pattern ที่นิยมใช้กันทั่วไป
เช่น
ตัวพิมพ์ใหญ่ 1 ตัว + ตัวอักษรพิมพ์เล็ก 5 ตัว + ตัวเลข 3 หลัก เช่น Avocad123
ตัวพิมพ์ใหญ่ 1 ตัว + ตัวพิมพ์เล็ก 6 ตัว + ตัวเลข 3 หลัก เช่น Avocado123
ตัวพิมพ์ใหญ่ 1 ตัว + ตัวพิมพ์เล็ก 3 ตัว + ตัวเลข 5 หลัก เช่น Avoc12345
3. หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลส่วนตัว
ในการตั้งรหัสผ่านไม่ควรนำข้อมูลส่วนตัวมาตั้ง
เช่น วันเดือนปีเกิด ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน หรือข้อมูลส่วนตัวที่พบได้ง่าย
เช่นสิ่งที่ชอบ ชื่อแฟน เป็นต้น
4. อย่าใช้คำที่มีอยู่ในพจนานุกรม
อันนี้ไม่ได้ล้อเล่น!!
เพราะคำทุกคำที่มีอยู่ในพจนานุกรม
ได้ถูกนำไปใส่ในโปรแกรมคาดเดารหัสผ่านเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่แค่คำบางคำในพจนานุกรมนะ
แต่ทั้งเล่มเลยละครับ โดย Hacker จะทำการสุ่มรหัสผ่านจากคำ
หรือกลุ่มคำง่ายๆ เช่น password liverpool หรือ iloveu
หรือการนำคำเหล่านี้มาประสมเปลี่ยน o เป็น 0 เปลี่ยน a เป็น @ หากจำเป็นต้องใช้จริงๆ
เราขอแนะนำให้สร้างเป็นประโยคยาวๆ ไปเลยจะทำแฮกเกอร์ หรือโปรแกรมคาดเดารหัสผ่านได้ยาก
5. อย่าใช้รหัสผ่านซ้ำ
อย่า…อย่าใช้รหัสผ่านอันเดียวกับทุกเว็บ
ทุกบริการ และทุกแอพพลิเคชันที่ใช้งาน เพราะหากแฮกเกอร์ได้รหัสผ่านไป หมดเลยนะ
ข้อมูลทุกอย่างที่มีอยู่ ดังนั้น ควรตั้งรหัสผ่านแต่ละบริการ อย่าให้ซ้ำกัน
หากกลัวลืมก็ตั้งให้เป็นเอกลักษณ์แบบที่เราจำเองได้ดีกว่า เช่น รหัสผ่าน Facebook
อาจจะตั้งเป็น Fgl@12Yt=54$B โดยใช้ FB
ซึ่งตัว F อยู่ข้างหน้า B อยู่ข้างหลัง ถ้าเป็นอีเมล Gmail ก็ตั้งเป็น Ggl@12Yt=54$M
คราวนี้รหัสผ่านก็ไม่ซ้ำกันแล้ว และยังช่วยจำได้ง่ายด้วย
6. อย่าบอก และอย่าจด
อย่าจดรหัสผ่านคุณเก็บไว้
แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องเก็บไว้ให้ดีๆ รวมไปถึงอย่าบอกให้ใครทราบ เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าจะเอารหัสผ่านเราไปใช้ที่ไหน
ทำอะไร และเค้าหวังดีกับเราจริงหรือไม่ ดังนั้น อย่าบอกรหัสผ่านกับใครจะดีกว่า
ป้องกันไว้ก่อน
7. ตั้งรหัสผ่านด้วยเพลงหรือข้อความที่ชอบ
ตั้งรหัสผ่านด้วยตัวอักษรแรกของประโยค
หรือเนื้อเพลงที่เราชอบ เช่น เนื้อเพลง Perfect ของ
One Direction ท่อนนึงมาใช้ในการตั้งรหัสผ่าน ดังนี้
เนื้องเพลง: “When
I first saw you from across the room/ I could tell that you were curious, oh
yeah/ Girl, I hope you’re sure what you’re looking for”
รหัสผ่านที่ได้: “W1fsuFatr/1CttUwC,Oy/G,1hy’rSwu’rLf
เป็นต้น
8. ตั้งรหัสผ่านจากตัวอักษรที่ชอบ 2-3 ตัว
ลองหาตัวอักษรที่ชอบมาสัก 2-3 ตัว แล้วลากเส้นตัวอักษรบนคีย์บอร์ด เช่นตัว L จะลาก
ผ่าน 3edcvbn ซึ่งหากจะให้ซับซ้อนขึ้นไปก็เพิ่มตัวอักระ
ตัวอักษรใหญ่เล็ก คละกันไป เช่น #3eDcvBN เป็นต้น
9. ใช้สลับภาษา
ลองพิมพ์คำไทยโดยแสดงผลเป็นภาษาอังกฤษ
เช่น คำว่า “รวยพันล้าน” หากแปลงเป็นภาษาอังกฤษจะได้เป็น “i;pryo]hko”
เป็นต้น
นี่เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นเท่านั้น
ดังนั้น ในการตั้งรหัสผ่านครั้งต่อไป ก็ควรที่จะมีความซํบซ้อน และคาดเดาได้ยากมากขึ้น
หรือถ้าใครยังใช้รหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่ายก็ควรเปลี่ยน
เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการขโมยข้อมูล
เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช้เรื่องที่ไกลตัวอีกต่อไป อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ไม่มีใครรู้ก็เป็นได้
ที่มา kb.hostatom.com
0 ความคิดเห็น