ภัยคุกคามต่อสกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่มาจากกระเป๋าเงินดิจิตอล (กระเป๋าเงินดิจิทัล) หรือผู้ให้บริการกระดานแลกเปลี่ยน กระเป๋าเงินคริปโตไม่ได้เก็บเหรียญดิจิทัลของคุณ แต่เก็บกุญแจส่วนตัว
(private key) ซึ่งจะช่วยให้คุณแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในรูปแบบออนไลน์ได้ กุญแจส่วนตัว (private key) นี้เป็นข้อมูลระบุตัวตนดิจิทัลของผู้ถือกระเป๋าตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล และใครก็ตามที่ได้รับข้อมูลกุญแจส่วนตัว (private key) จะสามารถดำเนินการธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงหรือขโมยเหรียญคริปโตของเจ้าของกระเป๋าได้ อาชญากรทางไซเบอร์มักใช้เทคนิคที่ซับซ้อนเพื่อเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลและขโมย/โอนเงินคริปโตโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว การรักษาความปลอดภัยกระเป๋าเงินส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องสกุลเงินดิจิทัลจากการโจมตีทางไซเบอร์

วิธีต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งในการรักษาความปลอดภัยให้คริปโตเคอเรนซีของคุณ


1. ใช้กระเป๋าเงินเย็น (Cold wallet)

Cold wallet ต่างจากกระเป๋าเงินร้อน หรือ Hot wallet ตรงที่ Cold wallet ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ดังนั้นจึงไม่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ การจัดเก็บกุญแจส่วนตัว (private key) ของคุณใน Cold Wallet หรือที่เรียกว่า Hardware Wallet เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดเนื่องจากมีการเข้ารหัส ทำให้กุญแจส่วนตัวของคุณปลอดภัย

ในปี 2019 กระดานแลกเปลี่ยน BITpoint ของญี่ปุ่นได้ค้นพบการถอนเงินจำนวน 32 ล้านดอลลาร์โดยไม่ได้รับอนุญาตออกจากกระเป๋าเงินร้อน หรือ Hot wallat ในสกุลเงินดิจิตอลต่าง ๆ ที่มีผู้ใช้มากกว่า 50,000 ราย โดย BITpoint มีการใช้กระเป๋าเงินร้อนสำหรับ 5 สกุลเงินดิจิตัล คือ Bitcoin, Bitcoin Cash, Ethereum, Litecoin และ Ripple อย่างไรก็ตาม BITpoint ชี้แจงว่ากระเป๋าเงินเย็น (Cold wallet) และการถือเงินสดไว้ในกระดานไม่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์นี้


2. ใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัย

ในขณะที่ทำการซื้อขายหรือทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิตัลอื่น ๆ ให้ใช้เฉพาะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการใช้เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะ แม้ในขณะที่เข้าถึงเครือข่ายในบ้านของคุณให้ใช้ VPN เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น โดย VPN จะเปลี่ยนที่อยู่ IP และตำแหน่งที่ตั้งของคุณ ทำให้การใช้บราวเซอร์ของคุณปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจากผู้คุกคามหรือนักโจรกรรม


3. มีกระเป๋าเงินคริปโตหลายใบ

เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดสำหรับการสร้างกระเป๋าเงินคริปโต คุณจึงสามารถกระจายการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลของคุณในหลายกระเป๋าเงินได้ แนะนำให้ใช้กระเป๋าเงินใบเดียวสำหรับธุรกรรมรายวันและเก็บเงินคริปโตส่วนที่เหลือไว้ในกระเป๋าเงินอื่นแยกต่างหาก ด้วยวิธีนี้จะสามารถปกป้องพอร์ตโฟลิโอและลดการสูญเสียจากการถูกละเมิดบัญชี crypto ของคุณ


 4. ปกป้องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนตัวของคุณ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนตัวของคุณมีการอัพเดทแอนติไวรัส (anti-virus) เวอร์ชั่นล่าสุด เพื่อป้องกันช่องโหว่ที่ค้นพบใหม่ ใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์ที่แข็งแกร่งเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนนี้โดยการเขียนโค้ดกำหนดเป้าหมายโจมตีช่องโหว่ของเครื่อง


5. เปลี่ยนรหัสผ่านของคุณเป็นประจำ

เมื่อพูดถึงความปลอดภัย ปฏิเสธไม่ได้ที่ต้องมีความเกี่ยวพันถึงรหัสผ่าน (password) ที่รัดกุมและคาดเดาได้ยาก จากการศึกษาพบว่า 3 ใน 4 ของคนรุ่นมิลเลนเนียลในสหรัฐอเมริกาใช้รหัสผ่านเดียวกันบนอุปกรณ์ แอป และบัญชีโซเชียลมีเดียอื่น ๆ มากกว่า 10 รายการ นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าส่วนใหญ่ใช้รหัสผ่านเดียวกันในกว่า 50 แห่ง โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีรหัสผ่านที่รัดกุมและซับซ้อนซึ่งยากต่อการเดาและมีการเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ ใช้รหัสผ่านแยกกันหากคุณมีหลายกระเป๋าเงิน อีกทั้งควรเลือกใช้การรับรองความถูกต้องด้วยสองปัจจัย (2FA) หรือการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายปัจจัย (MFA) เพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติม


6. อย่ากดรับฟิชชิ่ง

การหลอกลวงแบบฟิชชิ่งผ่านโฆษณาและอีเมลที่เป็นอันตรายนั้นมีอยู่ทั่วไปในโลกของสกุลเงินดิจิทัล ระมัดระวังในขณะที่ทำธุรกรรมคริปโต (crypto) และหลีกเลี่ยงลิงก์ที่น่าสงสัยและไม่รู้จัก ในการปล้นสกุลเงินดิจิทัลเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มแฮ็กเกอร์ “CryptoCore” ได้กำหนดเป้าหมายการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลผ่านแคมเปญสเปียร์ฟิชชิ่ง (spear-phishing campaigns) ผู้โจมตีขโมยเงินดิจิทัลมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ในสองปี โดยตั้งเป้าไปที่บริษัทในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2018 ClearSky ระบุว่า CryptoCore ได้เริ่มขั้นตอนการสำรวจเพื่อระบุบัญชีอีเมลของพนักงานของกระดานแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลและผู้บริหารด้านความปลอดภัยก่อนที่จะทำการโจมตีแบบฟิชชิ่ง การโจมตีเหล่านี้ดำเนินการโดยใช้โดเมนปลอมที่แอบอ้างเป็นองค์กรและพนักงานในเครือ และโดยการฝังลิงก์ที่เป็นอันตรายในเอกสารผ่านอีเมล



ที่มา
https://cisomag.eccouncil.org/cryptocurrency-wallet-security/

        https://www.kodefix.com/6-ways-to-protect/

 

 

 

 

 

 

 

1.    ใช้กระเป๋าเงินเย็น (Cold wallet)

2.    ใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัย

3.    มีกระเป๋าเงินคริปโตหลายใบ

4.    ปกป้องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนตัวของคุณ

5.    เปลี่ยนรหัสผ่านของคุณเป็นประจำ

6.    อย่ากดรับฟิชชิ่ง